สอง ช่างตัดผม

ช่างตัดผมของฉัน นานทีๆถึงจะยอมให้ฉันเล่าเรื่องให้ฟัง สามเดือนต่อหนึ่ง่ครั้ง เราใช้เวลามากกว่า 2 ปี ถึงจะได้เรื่องจากในพระคัมภีร์หกเรื่อง และในพระคัมภีร์ใหม่แปดเรื่องจบ วิธีการนี้เหมาะกับช่างตัดผมของฉัน เพราะมีเวลาให้เธอซึมซับเนื้อหาและคิดถึงเรื่องราวนั้นๆ เธอไม่ปัญหาในการจำเรื่องที่ได้เรียนไป เพียงแค่ใช้เวลาทบทวนเรื่องนั้นสั้นๆ เธอก็พร้อมจะฟังเรื่องใหม่ต่อ การทบทวนเป็นสิ่งที่ดี ไม่เพียงแต่จะทำให้เราจำเลือกราวได้ แต่ทำให้ฉันไม่ต้องหาบทสนทนาทเริ่มต้นเพื่อจะคุยพูดถึงพระกิตติคุณ เมื่อฉันนั่งลงตรงเก้าอี้ เธอก็รู้เลยว่าได้เวลาที่จะฟังเรื่องใหม่แล้ว

การจำเรื่องราวง่ายกว่าการสนทนากับคนอื่นถึงเรื่องที่จับต้องได้ยากเป็นนามธรรม เรื่องเล่ามันเชื่อมโยงความคิดเราได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันนาน ถ้าพูดคุยด้วยการใช้เรื่องราวจะสามารถดึงความทรงจำเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรือ่งราวที่เคยได้พูดถึงไปแล้วได้ การใช้เรื่องราวยิ่งเป็นประโยชน์กับความสัมพันธ์กับคนที่เราไม่มีโอกาสได้พบกันอย่างเป็นประจำ อย่างกับช่างตัดผมและเจ้าของร้านของ

มีช่างตัดผมอีกคนที่ได้มารับเชื่อ เขารู้สึกดีใจที่พระเจ้าสามารถใช้เขาในการแบ่งปันเรื่องราวของพระองค์ เขามีทักษะเดียวที่พอจะทำเป็นอาชีพ นั้นคือการตัดผม บวกกับเงินก้อนหนึ่งที่พอเช่าห้องเพื่อมาตัดผม ทุกครั้งที่เธอตัดผมให้ลูกค้า เธอเสนอลูกค้า เธอมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังถือเป็นบริการพิเศษเป็นของขวัญให้ลูกค้า หลายคนตอบรับข้อเสนอพิเศษนี้ เมื่อเวลาผ่านไปก็พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่ได้ฟังเรื่องราวของพระเจ้าจากการเล่าของเธอ

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *